บทความนี้จะมารีวิวปากกามาร์กเกอร์สองแบรนด์นี้นะครับ นั่นคือ Copic เจ้าดังยิ่งใหญ่ตลอดกาล กับ Ohuhu น้องใหม่ไฟแรงครับ
บทความนี้ผมไม่ได้รับสปอนเซอร์หรือมีการว่าจ้างใด ๆ นะครับ เขียนเองด้วยความรู้สึกล้วน ๆ ครับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีการแปะลิงก์ขายของให้นะครับ และไม่มีการอวยให้ซื้อตามแน่นอนครับ เพราะผมไม่ได้ผลประโยชน์อะไร ฮ่า ๆ ผมรับวาดรูปนะครับ ไม่ได้ขายปากกานะ ถึงเจ้าของแบรนด์ถ้าอยากจ้างรีวิว ช่างเหินยินดีรับสปอนเซอร์นะครับ เดี๋ยวจะเขียนอวยให้ฉ่ำ ๆ เลยค้าบ
ขอเท้าความไว้ก่อนเลยครับว่าปากกามาร์กเกอร์ในท้องตลาดเนี่ยมีหลายแบรนด์เลยครับ ที่ดัง ๆ และทุกคนต้องรู้จักเลยก็คือ Copic เนี่ยแหละครับ ส่วน Ohuhu เป็นแบรนด์รอง หาซื้อยากหน่อยนะครับในประเทศไทย เพราะมีคนนำเข้ามาค่อนข้างน้อยครับ ส่วนข้อมูลรายละเอียดลึก ๆ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาทั้งสองแบรนด์เนี่ย ผมบอกตามตรงครับ ผมไม่รู้จริง ๆ ครับ ฮ่า ๆ ขออยู่ฝั่งของคนที่ใช้งานอย่างเดียวละกันนะครับ
ก็จะเกิดคำถามมาอีกว่าทำไมผมถึงรีวิวสองแบรนด์นี้ นั่นก็เพราะว่าผมใช้อยู่แค่สองแบรนด์นี้ครับ แบรนด์อื่นไม่เคยใช้และไม่มีไว้ในครอบครองครับ หลักๆตัวผมเองจะใช้กับบริการรับวาดภาพเหมือนของผมนะครับ
เพราะฉะนั้นในบทความนี้ผมก็จะรีวิวตามการใช้งานจริง ๆ ผมได้นำมาทำงานวาดภาพให้ลูกค้าจริงๆ และเป็นเฉพาะความรู้สึกส่วนตัวโดยผมคนเดียวเท่านั้นนะครับ สำหรับท่านใดสนใจจะหาซื้อตามหรือลังเลในการเลือกปากกามาร์กเกอร์เพื่อเอาไปใช้สำหรับงานวาดของตัวเอง ผมก็หวังว่าบทความของผมจะพอเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ จะพยายามเขียนให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ
แนะนำแบรนด์สีทั้งสอง
copic
แน่นอนว่า Copic คือแบรนด์ชื่อดังที่สุดในวงการปากกามาร์กเกอร์ ยืนหนึ่งเสมอมาครับ คิดว่าสายนักวาดทุกคนย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดีถึงชื่อนี้ นักวาดทุกๆคนย่อมใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครองและนำมาใช้ในงานของตัวเองครับ
Ohuhu
ช่วงที่ผมกำลังจะเริ่มเข้าสู่วงการปากกามาร์กเกอร์ ผมได้รู้จักกับแบรนด์ Copic อยู่แล้ว โจทย์ของผมในตอนนั้นก็คือ แล้วจะหาอะไรที่มันทดแทนโคปิคได้บ้างมั้ย ผมเลยไปเสิร์ชหาข้อมูลและไถ ๆ แอปช็อปปิ้งชื่อดังที่เราชอบไปไถ ๆ กันประจำ และผมก็เจออยู่แบรนด์หนึ่งที่มีตัวแทนนำเข้าอยู่ร้านหนึ่ง และน่าสนใจมาก ๆ เลย นั่นก็คือ Ohuhu
เปรียบเทียบด้านราคา ทั้งสองแบรนด์
copic
ยืนหนึ่งเรื่องความแพงไม่มีอะไรเกิน Copic ครับ ฮ่า ๆ ปากกาบ้าอะไรแพงขนาดนี้ ต่อแท่งตกแท่งละ 12x-14x ครับ อาจจะหาซื้อได้ต่างราคากว่านี้ในไทยนะครับ แต่เท่าที่หาซื้อหาข้อมูลมาก็จะประมาณนี้ครับ ราคานี้คือต่อสีต่อแท่งนะครับ พระเจ้าช่วยให้ตายเถอะซาร่า กว่าจะได้สักหนึ่งผลงานนี่นึกแล้วสยองมาก ๆ ครับว่าจะต้องจ่ายไปเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการเลือกสีที่จำเป็น เฉพาะที่ใช้นั้นสำคัญมาก ๆ ครับ เวลาไปร้านเครื่องเขียนหรือจะหาซื้อก็แนะนำให้ดูชาร์ตสีดี ๆ และต้องตัดสินใจค่อนข้างเด็ดขาดครับ เพื่อประหยัดงบประมาณครับ
Ohuhu
มาดูที่เข้าถึงง่าย ๆ และอุ่นใจเรื่องราคากันบ้างครับ นั่นคือ Ohuhu ที่ผมซื้อมาเป็นแบบจัดเซ็ตมาให้แล้วนะครับ ของผมใช้เป็นเซ็ต Ohuhu เซ็ตสี 24 Skin Tone ราคาที่ผมซื้อมา 6xx บาท ในราคานี้ได้ถึง 24 สี ถือว่าประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากมายเลยทีเดียวครับ และได้ครบครันสำหรับวาดสีผิวเลยครับ ทางแบรนด์ก็มีขายเป็นเซ็ตแยก ๆ ไปในแต่ละแบบให้ด้วยนะครับ อันนี้ต้องลองไปศึกษาหาข้อมูลกันเองได้เลยนะครับ
สรุปเรื่องราคาผมขอยกให้ Ohuhu ชนะขาดไปเลยนะครับ
คุณภาพของปากากา
ในหัวข้อนี้ผมขอแยกย่อยออกมาสักหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะแยกรายละเอียดแบบยิบย่อยเป็นจุด ๆ ให้เลยนะครับ ทั้งสองแบรนด์มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันเป็นจุด ๆ ครับ
เนื้อสี
โดยจะกล่าวถึงคุณภาพของสีก่อนนะครับ ส่วนตัวผมยกให้ทั้งสองแบรนด์ คุณภาพของสีดีใช้ได้ทั้งคู่เลยครับ คือผมมองไม่เห็นถึงความต่างในส่วนนี้ครับ ทั้งสองแบรนด์ใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายครับ แห้งเร็ว ไม่ทิ้งคราบ ทั้งสองแบรนด์การเบลนด์สีทำได้ดีทั้งคู่ สีสดใสเหมือนกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นผมให้คุณภาพของเนื้อสีเท่ากันครับ
หัวบรัช หัวปากกา
อันนี้จะมีความต่างชัดเจนและถือว่าเป็นจุดสำคัญในการเลือกซื้อสีเลยครับ ทั้งสองแบรน จะมีสองหัวนะครับ โดยข้างนึงของทั้งสองแบรน จะเป็น หัวตัด เอาไว้ระบายพื้นที่กว้างๆครับ ซึ่งเท่าที่ลองมา ทำได้ดีทั้งคู่ สีไหลออกฉ่ำ เพราะฉะนั้นผมจะให้คะแนนในส่วนหัวตัดเท่ากันครับ
ส่วนในหัวอีกด้าน Copic จะเป็นหัวบรัช มีความนุ่มครับ ตัวหัวแปรงให้ฟีลลิ่งคล้าย ๆ พู่กันอยู่นะครับ สามารถบังคับได้ เก็บรายละเอียดในส่วนที่เล็ก ๆ ได้ดีครับ ควบคุมง่าย เป็นจุดที่ผมชอบมาก ๆ อันนี้คือ Copic ทำได้ดีมาก ๆ จนยังไม่มีแบรนด์ไหนทำได้ทัดเทียมเลยครับ ต้องยอมเขาจริง ๆ
ส่วน Ohuhu เป็นหัวแบบปากกาเมจิกครับ แข็ง ๆ เลย มีความเล็กแบบมน ๆ หน่อย ไม่มีความยืดหยุ่น แต่ก็ใช้ระบายและเก็บรายละเอียดได้ดีครับ จุดเล็ก ๆ ยังเก็บได้ไม่เท่า Copic ครับ
ในส่วนของหัวบรัชผมขอยกให้ Copic ชนะขาดลอยครับ ที่สำคัญทางแบรนด์ Copic มีหัวปากกาแยกให้หาซื้อมาเปลี่ยนได้ หากเราใช้งานไปแล้วเกิดหัวแตก พัง ส่วน Ohuhu พังแล้วพังเลยครับ เปลี่ยนหัวไม่ได้ และนี่เป็นส่วนที่ทำให้ผมยอมจ่ายราคาแพงกว่า เพื่อให้ได้ส่วนนี้มาอีกหนึ่งข้อครับ
ดีไซน์ด้ามปากกา
ไม่แน่ใจว่าในส่วนของการดีไซน์ตัวด้ามปากกานั้นจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของทุกคนขนาดไหนนะครับ แต่สำหรับผมเรียกได้ว่าเป็นสิ่งเอาไว้ฮีลใจละกันครับ อิอิ
Copic เข้าใจว่าเขาคงผลิตกันมานาน เป็นเจ้าแรก เป็นเจ้าดัง เบอร์หนึ่งในตลาด เรื่องการดีไซน์ของตัวปากกาเลยดูเชยไปหน่อยนะครับ ดูแล้วไม่มีความทันสมัย เหมือนปากกาคนแก่ ๆ ใช้ยังไงก็ไม่รู้ครับ แต่ก็เข้าใจได้ว่าเขาคือแบรนด์ที่มีมายาวนานครับ บางทีการเปลี่ยนดีไซน์อาจจะไม่ใช่ผลดีสำหรับเขาสักเท่าไหร่ครับ เพราะกลุ่มผู้ใช้โคปิคเห็นดีไซน์นี้แล้วก็มีส่วนที่ทำให้ไว้ใจในด้านคุณภาพครับ
ส่วน Ohuhu เขาคือน้องใหม่มาแรง ดีไซน์สวย เก๋ไก๋ ทันสมัย เอามาวางบนโต๊ะเครื่องเขียนนี่เท่สะบัดครับ เห็นแล้วดีต่อใจสุด ๆ ครับ
ในส่วนของการดีไซน์ด้ามปากกา ความสวยงาม ผมยกให้ Ohuhu ชนะครับ ส่วนการใช้งาน จับถือ ให้เสมอกันครับ
ความคุ้มค่าในการลงทุน
ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ๆ เลยครับ เพราะการลงทุนคือเงินในกระเป๋าของเราจริง ๆ เงินที่เราหามาอย่างยากลำบาก ตรากตรำทำงานเพื่อจะเอามาซื้อสี เพราะของมันต้องมีใช่มะ
ผมจะแนะนำถึงความคุ้มค่าแบบระยะสั้นและระยะยาวนะครับ ซึ่งมีจุดให้ขบคิดในตัวสองแบรนด์นี้ครับ
ในระยะสั้นผมแนะนำเลยว่า ยังไงก็ Ohuhu ครับ เพราะด้วยเรื่องราคาครับ มันถูกครับ พังเราก็หาซื้อด้ามใหม่ได้ เห็นในไทยมีตัวแทนขายแบบแยกแท่งให้ด้วยนะครับ แต่เท่าที่ศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองมานะครับ ตอนนี้ยังนำเข้ามาไม่ครบสี มีแบบแยกแท่งเป็นบางสีเท่านั้นครับ ถ้าหากสีที่เราใช้จนหมดแล้วไม่มีแบบขายแยกแท่ง อันนี้เราก็ซวยไปครับ หรืออาจจะต้องหาสีอื่นมาทดแทน และถ้าหัวปากกาแตก เราก็ยังไม่มีอะไหล่สำรองในการซ่อมหรือเปลี่ยนหัวปากกาครับ ไม่สามารถเติมหมึกได้ จึงเหมาะกับใช้ระยะสั้น ๆ มากกว่าครับ
ซึ่งโดยปกติของสีมาร์คเกอร์เท่าที่เจอ เวลาเราเก็บไว้นาน ๆ เราจะเสี่ยงเจอปากกาแห้งเองได้ครับ ถ้าจะใช้ระยะยาว ๆ Ohuhu ถือว่ายังมีความเสี่ยงสูงมาก ๆ ครับ
ส่วนในระยะยาว ลงทุนจริงจังก็ต้อง copic ครับ ผมเชื่อว่าถ้านักวาดทุกท่านมองถึงการใช้ระยะยาวก็คงจะใช้ปากกาตัวนี้แบบค่อนข้างจริงจัง ใช้บ่อย ใช้ทำงานจริง ๆ แบบยาว ๆ การเลือกลงทุนกับ copic เลยจะคุ้มค่ากว่ามากครับ หากสีแห้งหรือหมึกหมด ทางแบรนด์มีหมึกมาขายแยกให้ครับ สามารถเติมได้ตลอด อะไหล่หาซื้อไม่ยากครับ มีตัวแทนขายค่อนข้างเยอะเลยครับ สีแบบแยกแท่งก็หาซื้อง่ายกว่าครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องสีแห้งหรือหมึกหมดเลยครับ แต่ก็แลกกับการลงทุนในระยะแรกที่ค่อนข้างใช้เงินเยอะพอสมควรครับ
ผมได้ทำบทความเกี่ยวกับวิธีการวาดภาพด้วยปากกามาร์กเกอร์ไว้ด้วยนะครับ สามารถตามเข้าไปอ่านกันได้ครับ
ส่วนตัว ณ ปัจจุบัน เลย ผมเลิกใช้ไปแล้วครับ ฮ่าฮ่า เพราะเรื่องราคาเลยครับผม ไปต่อไม่ไหวครับ กว่าจะครบชุดของทั้งสองแบรนด์ ก็เอาเรื่องครับ กระเป๋าฉีกแน่นอน และราคางานที่ผมรับมันไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่ผมใช้ลงทุนไปกับสีครับ ผมเลยหันมาฝึกสีน้ำแทนครับ (ดูดเงินพอกันเล้ยยยย)
คิดว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจจะลงทุนกับอุปกรณ์วาดเขียนทั้งสองแบรนด์นี้ได้บ้างนะครับ
ผมอยากฝากไว้นิดนึงครับ ว่าไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ปากกา Copic หรือ Ohuhu จริง ๆ แล้ว สิ่งสำคัญกว่าคือฝีมือและการฝึกฝน อุปกรณ์เป็นเพียงเครื่องมือครับ
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนวาดรูปกันอย่างมีความสุขนะครับ
ขอขายของหน่อยนะครับ หากสนใจจะจ้างผมวาดภาพการ์ตูน วาดภาพเหมือนก็ติดต่อมาหาผมได้
สำหรับใครที่อาจจะยังลังเล ไม่รู้จะลงทุนซื้อปากกาแพง ๆ ดีไหม หรือไม่มีเวลาเรียนรู้การใช้มาร์กเกอร์ให้คล่อง ผมเองรับงานวาดภาพอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็น ภาพเหมือนจริง ภาพการ์ตูน หรือภาพสีน้ำ
งานที่ผมทำจะใช้เทคนิคและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับแต่ละสไตล์ เพื่อให้งานออกมาสวยที่สุดตามที่คุณต้องการครับ
📱 สนใจติดต่อได้ที่ Line: @912argil
📞 โทร: 089-9296068 (ช่างเหิน)
ฝากไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ 😊 ถ้าอยากได้งานวาดคุณภาพโดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์เอง ผมยินดีสร้างสรรค์ผลงานให้ครับ
ส่วนผลงานก็ดูในเว็บผมเองได้เลยครับ ติดต่อมาจ้างงานกันอย่างเดียวพอนะครับ ใครติดต่อมาขายปากกา ผมต่อยนะครับ ฮ่าฮ่า (ไม่มีตังแล้ววว)
